(CAC เป็นองค์กรของ ‘สหประชาชาติ (United Nations)’ ที่ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของ องค์กรอาหารและเกษตร (Food and Agriculture Organization หรือ FAO) และองค์กรอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ในช่วงปี พ.ศ. 2504-2506 โดยในปัจจุบันมีสมาชิกรวม 176 ประเทศ.
นอกจากนมผงที่มีเมลามีนปนเปื้อนแล้ว อาหารที่พบปนเปื้อนด้วยเมลามีน คือ โยเกิร์ต, บิสกิต/คุ้กกี้, ขนมหวานอื่น และกาแฟพร้อมดื่ม (WHO, 25 October 2008 และ WHO: Melamine-contaminated powdered infant formula in China, 2008). นอกจากนั้นยังมีการปนเปื้อนเมลามีนในอาหาร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นม คือ ‘อาหารสัตว์’ ทั้งสำหรับสัตว์เลี้ยงบ้าน และปศุสัตว์.
นอกจากเมลามีนมีในผลิตภัณฑ์นมแล้ว ยังพบปนเปื้อนในอาหารสัตว์ ซึ่งเกิดด้วยเหตุผลเดียวกัน คือต้องการแข่งขันเชิงธุรกิจ ด้วยการลดต้นทุนสินค้า โดยใส่เมลามีนในสารสกัดโปรตีนเข้มข้นของข้าวสาลี และข้าวเจ้า ซึ่งเป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงบ้าน และสัตว์เลี้ยงฟาร์ม (ปศุสัตว์). วัตถุดิบนี้ผลิตขึ้นในจีน และส่งออกไปยังบางประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา.กรณีอาหารสัตว์เลี้ยงบ้าน (pet food), ในปี 2550 พบเมลามีนใน ‘สารสกัดโปรตีนเข้มข้นของข้าวสารลี และข้าวเจ้า (wheat gluten and rice protein concentrate)’ ซึ่งเชื่อว่าในความจริงเป็น แป้งสาลีผสมกับเมลามีน ที่นำเข้าจากจีนสู่สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์สำหรับสุนัขและแมว. เมลามีนในอาหารสัตว์นี้ทำให้สุนัขและแมวจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจาก ‘ไตวาย (kidney failure).’
โปรตีน gluten ที่ปนเปื้อนด้วยเมลามีนนั้น มีสัดส่วนของ melamine compound ดังนี้ melamine 8.4%, cyanuric acid 5.3%, ammelide 2.3%, ammeline 1.7%, และ ทั้ง ureidomelamine และ methylmelamine <1% (Dobson et al. 2008).
กรณีอาหารปศุสัตว์ (feed), หลังจาก การตายของสุนัขและแมวในปี 2550 หน่วยงานของสหรัฐอเมริกาได้เริ่มต้นตรวจสอบหาสาเหตุ และได้พบการปนเปื้อนของเมลามีน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเมลามีนในทั่วโลก โดยเริ่มต้นพบว่า ในปี 2550 ‘สารสกัดโปรตีนเข้มข้นของข้าว และข้าวสาลี (wheat gluten and rice protein concentrate)’ ที่ผลิตขึ้นในจีน ถูกนำไปเป็นส่วนผสมเพื่อผลิตอาหารสัตว์ สำหรับปศุสัตว์ ทำให้เมลามีนเข้าสู่สัตว์ โดยผลสุดท้ายมีเมลามีนอยู่ใน เนื้อหมู, เนื้อไก่, ปลาเลี้ยง และไข่. อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยของ U.S. FDA และ USDA และกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในองค์กรอื่นมีความเห็นร่วมกันว่า ระดับความเข้มข้นของเมลามีนในวัตถุดิบอาหารดังกล่าว ไม่ก่อให้เกิดอันตรายทางสุขภาพต่อผู้บริโภค (U.S. FDA, 25 May 2007 และ U.S. FDA, 1 August 2007)
[1] วิธีวิเคราะห์โปรตีน ที่ใช้ทั่วไปคือ Kjeldahl และ Dumas method ไม่สามารถแยกว่าเมลามีนไม่ใช่โปรตีน.
[2] องค์กร และสื่อ ใช้ชื่อ ไม่ตรงกัน มีทั้ง San – Lu Co., San – Lu Groups, San – Lu, Sanlu Group และ Sanlu.